
‘ผ้ากันน้ำ’ เป็นผ้าที่มีคุณสมบัติกันน้ำได้ ซึ่งผ่านการตกแต่งพิเศษ หรือเคลือบสารบางชนิด เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำซึมลงเนื้อผ้าได้ โดยจะแบ่งออกเป็น
1. ผ้าร่มกันละอองฝน หรือผ้ากันละอองน้ำ (วอเตอร์รีซิสแทนต์ – Water Resistant) เป็น ผ้าระดับเริ่มต้นของการกันน้ำ เกิดขึ้นจากตัวเนื้อผ้าเองที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนฉนวนกันละอองน้ำ หรือสายฝนบางเบา จะกันฝนได้ขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับความแน่นของการทอเนื้อผ้า สามารถเอาไปทำเป็นเสื้อกันฝนได้ ในประเทศที่มักจะมีฝนตกปรอยๆ และสามารถนำไปทำเสื้อแจ๊กเกตใส่สวยงามได้ ซึ่งหากฝนตกปรอยๆ ก็จะไม่รู้สึกเปียก แถมยังแห้งไวอีกด้วยครับ แต่หากว่าวันนั้นบังเอิญฝนตกหนักหรือไม่หนักมากแต่คุณยืนตากฝนอยู่นานๆ น้ำฝนก็จะสามารถซึมเข้าไปได้
2. ผ้าร่มกันน้ำซึมดั่งใบบอน (วอเตอร์เรปเพเร้นท – Water Repellent) สามารถอธิบายให้เข้าใจได้ในรูปแบบง่ายๆ คือ เมื่อมีน้ำสัมผัสกับผ้า น้ำจะไม่สามารถซึมผ่านผ้านั้นได้ระยะเวลาหนึ่ง เหมือนน้ำที่กลิ้งบนใบบัว แต่หากปล่อยทิ้งไว้ไม่ทำความสะอาดสักพัก น้ำนั้นจะซึมลงบนตัวผ้า ทำให้ผ้าชื้นและเปียก นิยมนำมาใช้กับผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ เพราะเป็นการตกแต่งพิเศษที่เพิ่มคุณสมบัติให้กับเนื้อผ้า โดยไม่ทำให้ผิวสัมผัสของเนื้อผ้าแตกต่างจากเดิมมาก
3. ผ้าร่มกันน้ำ (วอเตอร์พรูฟ – Waterproof) ต่างจาก Water-Repellent คือเมื่อน้ำมาสัมผัสกับผ้าจะไม่ใช่เพียงแค่น้ำเกาะตัวได้สักพักแล้วซึมลงบนตัวผ้า แต่น้ำจะไม่สามารถเข้าไปในเนื้อผ้าได้ 100% ไม่ว่าจะผ่านไประยะเวลานานเท่าไร โดยส่วนใหญ่จะไม่นิยมกับผ้าบุเฟอร์นิเจอร์เพราะการตกแต่งกันน้ำประเภทนี้จะส่งผลทำให้ผิวสัมผัสของเนื้อผ้าเปลี่ยนไปจากเดิมมาก จะทำให้ผ้าแข็งและหยาบ









